SPRC คว้ารางวัล “2023 AMCHAM Corporate Social Impact” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สำหรับรางวัลระดับเงิน จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย

SPRC คว้ารางวัล “2023 AMCHAM Corporate Social Impact” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สำหรับรางวัลระดับเงิน จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC เข้ารับรางวัล “2023 AMCHAM Corporate Social Impact” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งปีนี้ SPRC ได้รับรางวัลระดับเงิน จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย โดยมีนายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท SPRC รับมอบรางวัลจาก นายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และมีนางสาวเด็บบราห์ ไซเฟิร์ท รองประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดี ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการยกย่องบริษัทที่มุ่งสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมในระยะยาว โดยปีนี้มีบริษัทสมาชิกหอการค้าฯ ที่มีความเป็นเลิศด้านการสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคม ผ่านการคัดเลือกจำนวน 98 บริษัท จากผู้สมัครทั้งสิ้น 116 บริษัท

การได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ สะท้อนให้เห็นว่า SPRC เป็น 1 ในองค์กรที่มีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงหลักความยั่งยืนและการพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

THE LIGHTER THAILAND

SPRC นำคณะทำงานร่วมฝึกซ้อมแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พื้นที่ระยอง “ROSE’23”

SPRC นำคณะทำงานร่วมฝึกซ้อมแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พื้นที่ระยอง “ROSE’23”

วันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2566 บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ร่วมกับคณะกรรมการงานป้องกันและแก้ไขการรั่วไหลของน้ำมัน เขตพื้นที่ระยอง ได้แก่ SCGC (MTT), IRPC และ GC เข้าร่วมการประชุมเชิงวิชาการ และการฝึกซ้อมแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พื้นที่ระยอง2566 (ROSE Thailand 2023: Rayong Oil Spill Exercise & Conference) จัดโดย สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (Oil Industry Environmental Safety Group Association : IESG) เตรียมพร้อมรองรับแผนจัดการมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ พ.ศ. 2566 ฉบับใหม่

ภายในงานได้รับเกียรติจาก พลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติในทะเลภาค1 (ผอ.ศรชล.ภาค1) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงวิชาการ ร่วมด้วย นาวาเอก นาวี กุลอารีมิตร ผู้อำนวยการกองยุทธการ กองทัพเรือภาคที่1 นายวิสิฏฐ์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ-การจัดส่งน้ำมัน บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือSPRC นางสาวสุนทรี ภิรมย์ หัวหน้ากลุ่มสิ่งแวดล้อม สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ นายวีระพงษ์ บุญชุม หัวหน้างานควบคุมและป้องกันภาวะมลพิษทางทะเล กลุ่มสิ่งแวดล้อม กรมเจ้าท่า ดร.สมรัตน์ ยินดีพิธ อุปนายกสมาคมส่งเสริมความปลอดภัย และอนามัยในการทำงาน(ประเทศไทย) ในพระราชูปถัมภ์ฯ นายธีรพล ประภากร ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน(IESG) นายโอภาส ไวยสัจจา ประธานอนุกรรมการงานป้องกันและแก้ไขการรั่วไหลของน้ำมัน เขตพื้นที่ระยอง พร้อมคณะทำงานด้านการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินเข้าร่วมซ้อมแผนฯ ด้วย

กิจกรรมดังกล่าวประกอบไปด้วย การสัมมนาเชิงวิชาการ การฝึกอบรม และการฝึกซ้อมแผนขจัดคราบน้ำมัน โดยเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันระหว่างอนุกรรมการงานป้องกันและแก้ไขการรั่วไหลของน้ำมัน เขตพื้นที่ระยองและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มีการจัดฝึกซ้อมขจัดคราบน้ำมัน ทั้งในรูปแบบการฝึกซ้อมในที่บังคับการ และการฝึกซ้อมภาคสนาม ได้เรียนรู้ถึงระบบบัญชาการเหตุการณ์สำหรับทีมจัดการเหตุการณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแผนจัดการมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ พ.ศ. 2566 ฉบับใหม่ ทั้งยังเป็นการสานความสัมพันธ์อันดี ระหว่างกลุ่มคณะอนุกรรมการงานป้องกันแก้ไขการรั่วไหลของน้ำมันในเขตพื้นที่ระยอง และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

THE LIGHTER THAILAND

โครงการท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และ Gulf MTP ร่วม ทต.บ้านฉาง ร่วมสืบสานประเพณี ลอยกระทงลงทะเล หาดน้ำริน

โครงการท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และ Gulf MTP ร่วม ทต.บ้านฉาง ร่วมสืบสานประเพณี ลอยกระทงลงทะเล หาดน้ำริน

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 โครงการท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และ Gulf MTP ร่วมสนับสนุนกิจกรรม
ประเพณีลอยกระทงลงทะเล ร่วมกับเทศบาลตำบลบ้านฉาง ณ บริเวณหาดน้ำริน นำโดยนายสุชิน พูลหิรัญ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านฉาง เป็นประธานในการเปิดงาน ประเพณีลอยกระทง พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชน และหน่วยงานภาคเอกชน ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อสร้างความรักสามัคคีในท้องถิ่น และสืบสานประเพณีอันดีงาม และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ด้านโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 นำโดย นายสดุดี สุจริต ผู้จัดการโครงการก่อสร้าง ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และ บ. Gulf MTP นำคณะพนักงานเข้าร่วมกิจกรรม และกล่าวว่า โครงการฯ ยินดีร่วมสนับสนุนกิจกรรมวัฒนธรรมชุมชน และ องค์กรท้องถิ่น ซึ่งเป็นประเพณีที่ดีของชุมชนและจะเป็นประโยชน์เชิงการท่องเที่ยวต่อไปได้ ตามแนวทางของ Soft power ในระยะต่อไป ซึ่งแปลกกว่าที่อื่นที่เราโดดเด่นคือ ลอยกระทงลงทะเล ยินดีร่วมสนับสนุนพัฒนากิจกรรมชุมชนท้องถิ่น เพราะเราตระหนักว่าเราก็คือหนึ่งในสมาชิกที่อยู่ในชุมชนที่จะร่วมพัฒนาชุมชน สิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน

THE LIGHTER THAILAND

Dow หนุนชุมชน สืบสานประเพณีไทย สร้างสุขวันลอยกระทง บ้านฉาง-มาบตาพุด

Dow หนุนชุมชน สืบสานประเพณีไทย สร้างสุขวันลอยกระทง บ้านฉาง-มาบตาพุด

ระยอง –  28 พฤศจิกายน 2566 – กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) สานต่อความผูกพันกับชุมชน  ร่วมกิจกรรมวันลอยกระทงในชุมชนประจำปี 2566 โดยได้สนับสนุนงบประมาณและเครื่องใช้ไฟฟ้าและของรางวัลอื่น ๆ ในการจับฉลากสอยดาวรวมมูลค่ากว่ 100,000 บาท พร้อมกับนำพนักงานดาวอาสาไปประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ และร่วมสร้างความสุขในงานลอยกระทงให้กับประชาชนในพื้นที่บ้านฉางและมาบตาพุดระหว่างวันที่ 2527 พฤศจิกายน 2566 ทั้งนี้ Dow ได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ด้านศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในชุมชน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ เห็นคุณค่าความสำคัญของศิลปวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น และรักษาไว้ให้คงอยู่ถึงชนรุ่นหลังสืบไป

THE LIGHTER THAILAND

นิปปอนเพนต์จัดโครงการ “ปันของหมุนเวียนแลกเปลี่ยนสุขใจ” 

นิปปอนเพนต์จัดโครงการ “ปันของหมุนเวียนแลกเปลี่ยนสุขใจ” 

นายนพดล ศรีสินรุ่งเรือง ผู้จัดการทั่วไป และ สุรศักดิ์ กุลจิตติศาสตร์ ผู้จัดการเทคนิคอาวุโส  บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ธุรกิจสีพ่นรถยนต์ จัดโครงการ “ปันของหมุนเวียนแลกเปลี่ยนสุขใจ” และพนักงานได้ร่วมกันบริจาคเงิน และนำสิ่งของมาบริจาค เพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคมที่ผู้คนสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการบริจาคสามารถให้ได้ทั้งเงิน สิ่งของ อาหาร และอื่น ๆจึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้เด็กๆมีชีวิตที่ดีขึ้นทั้งด้านสุขภาพ สุขอนามัย โภชนาการ ที่อยู่อาศัย การศึกษา และอื่น ๆ และในครั้งนี้ บริษัทฯ ร่วมกับชมรมจิตอาสา ได้จัดกิจกรรม CSR  โดยการเลี้ยงอาหารกลางวัน คุณครู และนักเรียนจำนวน 120 คน และร่วมทำกิจกรรมให้เด็กๆ  อาทิเช่น ภาพพิมพ์หรรษาและทำพวงกุญแจ  ทั้งนี้ ได้นำสิ่งของไปมอบให้น้องๆ นักเรียน ณ โรงเรียนดอนทองราษฏร์วิทยา จ.ลพบุรี   ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม CSR ที่ทางนิปปอนเพนต์กลุ่มธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ ได้ตระหนัก และจัดทำกิจกรรมอย่างเนื่องในหลากหลายรูปแบบ เพื่อเป็นแรงผลักในการช่วยเหลือสังคมอีกช่องทางหนึ่ง

ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางนิปปอนเพนต์กลุ่มธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ ก็ได้จัดกิจกรรม CSR โดยการจัดกิจกรรมคืนความสมบูรณ์สู่ธรรมชาติ  โดยมีการปล่อยปลา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมของนโยบายการสร้างความสมดุล อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ และอีกหนึ่งกิจกรรมคือการจัดทำท่อดักท์ (Duct) เพื่อช่วยลดมลภาวะทางอากาศไม่มีมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และล่าสุดเราได้จัดกิจกรรมโครงการ “ปันของหมุนเวียนแลกเปลี่ยนสุขใจ” เป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อีกด้วย

THE LIGHTER THAILAND

เทศบาลตำบลสุนทรภู่ จ.ระยอง ยันจัดลอยกระทงในทะเล มีทุ่นดัก-เจ้าหน้าที่ดำน้ำเก็บไม่ตกค้าง พร้อมดูแลความปลอดภัย นทท.เต็มที่

เทศบาลตำบลสุนทรภู่ จ.ระยอง ยันจัดลอยกระทงในทะเล มีทุ่นดัก-เจ้าหน้าที่ดำน้ำเก็บไม่ตกค้าง พร้อมดูแลความปลอดภัย นทท.เต็มที่

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.น.ส.ศศิพัชร์ จิรัตติกานนท์ ผอ.กองการศึกษา เทศบาลตำบลสุนทรภู่ เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลสุนทรภู่ ได้จัดงานประเพณีลอยกระทงในทะเลบริเวณแหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง ในค่ำคืนวันที่ 27 พ.ย.นี้ โดยเทศบาลตำบลทับมา ได้ตระหนักถึงวัฒนธรรมประเพณีลอยกระทงไปพร้อมๆ กับสิ่งแวดล้อมที่ดี และเศรษฐกิจรากฐานให้พี่น้อง ปชช.ที่ดีด้วย โดยเฉพาะ ปชช.ได้ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงดังกล่าว และมีรายได้จากการจำหน่ายอาหารทะเล สินค้าและอาหารพื้นถิ่น มี นทท.หลั่งไหลเข้าเที่ยวงาน จึงได้จัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทงดังกล่าวขึ้น โดยบริเวณจัดงานได้มีการจัดโป๊ะลอยน้ำที่มีความแข็งแรงสำหรับให้พี่น้อง ปชช.ลอยกระทง และมีทุ่นล้อมรอบดัก และป้องกันกระทงลอยออกไปในทะเล ซึ่งจะยากต่อการจัดเก็บ พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำลงเก็บกระทงทั้งหมด เพื่อไม่มีหลุดลอดตกค้างในทะเล และมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยสำหรับ นทท.อีก 10 กว่าคน และมีเรือเร็ว 2 ลำ สแตนด์บาย เพื่อให้ดูแลช่วยเหลือ นทท.ที่มาร่วมลอยกระทงด้วย

อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาได้มีการจัดงานลอยกระทง ปชช.และ นทท.ได้มีลอยกระทงในทะเลตลอดแนว ส่งผลให้เศษขยะกระทงกระจัดกระจายในทะเล ดังนั้นในปีนี้ทางเทศบาลตำบลสุนทรภู่ เห็นว่าเพื่อกระทงไม่ให้ลอยกระทบสิ่งแวดล้อมในทะเล จึงได้มีการจัดพื้นที่ลอยกระทงให้ เป็นแลนด์มาร์กดึง นทท.โดยมีทุ่นล้อมรอบ และมีเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำเก็บกระทงไม่ให้หลุดรอดไปในทะเลดังกล่าว พร้อมกับจะมีการประชาสัมพันธ์ตลอดแนวชายหาดให้ ปชช.และ นทท.รับทราบอย่างทั่วถึง ให้นำกระทงมาลอยในพื้นที่ที่จัดไว้ดังกล่าวอีกด้วย.

THE LIGHTER THAILAND

จ.ระยอง พิธีสวดพระพุทธมนต์-ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า วันคล้ายวันสวรรคต ร.6

จ.ระยอง พิธีสวดพระพุทธมนต์-ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า วันคล้ายวันสวรรคต ร.6


เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 25 พ.ย.ที่พระอุโบสถวัดป่าประดู่พระอารามหลวง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง นานไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนชาวจังหวัดระยองทุกหมู่เหล่าจัดกิจกรรม เนื่องในวันพระมหาธีรราชเจ้า ประจำปี 2566 วันคล้ายวันสวรรคต ร.6 โดยมีพิธีสวดพระพุทธมนต์ และตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยมีพระเทพสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดระยอง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

ทั้งนี้สำหรับ ‘วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า’ ตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์นั้นได้เป็นผู้ให้พระราชทานกำเนิดกิจการลูกเสือไทยขึ้น ซึ่งพระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่ได้ทรงริเริ่มและพัฒนาไว้ล้วนแต่เป็นรากฐานที่สำคัญซึ่งนำไปสู่ความเจริญของประเทศสืบมาจนปัจจุบัน.

THE LIGHTER THAILAND

ท่าเรือ MTP3 /Gulf MTP /สทร./ ITD /PMSC/SPRC / โรงแยกก๊าซ ปตท. /อดิตยา เมาว์ล่า จับมือ วิสาหกิจชุมชนฯหาดสุชาดา และ ทต.เนินพระ“ เปิดธนาคารเพาะพันธุ์กล้าไม้ป่าชายเลน ทต.เนินพระ จ.ระยอง ”

ท่าเรือ MTP3 /Gulf MTP /สทร./ ITD /PMSC/SPRC / โรงแยกก๊าซ ปตท. /อดิตยา เมาว์ล่า จับมือ วิสาหกิจชุมชนฯหาดสุชาดา และ ทต.เนินพระ“ เปิดธนาคารเพาะพันธุ์กล้าไม้ป่าชายเลน ทต.เนินพระ จ.ระยอง ”

วันที่ 22 พ.ย. 2566 โครงการท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และ Gulf MTP จับมือ วิสาหกิจชุมชนฯประมงเรือเล็กหาดสุชาดา “ เปิดธนาคารเพาะพันธุ์กล้าไม้ป่าชายเลน ฟื้นฟูป่าชายเลน ทต.เนินพระ จ.ระยอง ” โดยมีภาคีบริษัท โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ หลายบริษัท เข้าร่วมสนับสนุนและร่วมกิจกรรม ได้แก่ สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ( สทร./กนอ. ) บริษัท ITD บริษัท PMSC (ที่ปรึกษา การก่อสร้าง ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3) บ.ริษัท SPRC บริษัท PTT โรงแยกก๊าซ บริษัท อดิตยา เมาว์ล่า จำกัด ฯลฯ กิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับเกียติจาก นายบุญธรรม ใยกล้า นายกเทศบาลตำบลเนินพระ เป็นประธานเปิดงาน และ นายลำเพย แว่วเสียง ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา เป็นผู้กล่าวรายงาน


นายบุญธรรม ใยกล้า นายก ทต.เนินพระ กล่าวว่า รู้สึกยินดี และขอขอบคุณที่เข้ามาร่วมกิจกรรมดูแลป่าชายเลนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของ เทศบาลตำบลเนินพระ ฯ การจัดตั้งและ เปิดธนาคารเพาะพันธุ์กล้าไม้ป่าชายเลน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของ โครงการศูนย์เรียนรู้ และธนาคารจุลินทรีย์ ฯ ของวิสาหกิจชุมชนฯหาดสุชาดา ที่ให้ความสำคัญต่อการฟื้นฟูป่าชายเลนแห่งนี้ ร่วมคิดและดำเนินการร่วมกันจนถึงปัจจุบัน เพื่อฟื้นฟูป่าชายเลนให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนและปอดของเมืองระยอง อีกภาคส่วนที่สำคัญ คือ การสนับสนุนจากบริษัทโรงงานภาคอุตสาหกรรมต่างๆร่วมกันมาโดยตลอด ซึ่งการพัฒนาป่าชายเลนนี้ มีความก้าวหน้า และ ต้นไม้เจริญเติบโตหนาแน่นขึ้นซึ่ง เป็นที่น่าพอใจมาก ในระยะต่อไปจะส่งผลดีต่อระบบนิเวศ ต่อชาวประมง พี่น้องประชาชน และ จังหวัดระยองด้วย


นายลำเพย แว่วเสียง ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ เป็นการเปิดธนาคารเพาะพันธุ์กล้าไม้ป่าชายเลนต่อเนื่องจากโครงการ ธนาคารจุลินทรีย์ และการเปิดแปลงปลูกป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม มาแล้ว 2 แปลง ปลูกต้นไม้ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมากว่า 4,000 ต้น ซึ่ง ได้นำนวัตกรรมจุลินทรีย์ฯชีวภาพ มาช่วยปรับสภาพดินน้ำและเป็นปุ๋ยสร้างสมดุลทางชีวภาพ แก่ต้นกล้าที่ปลูกและมีการติดตามดูแลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้นไม้ที่ปลูกเจริญเติบโตแข็งแรงและอัตราการรอดสูงมาก ต้องขอบคุณ ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน และนายศุภฤกษ์ โสภณราพงษ์ จากโครงการท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 และ บริษัท Gulf MTP ที่เป็นที่ปรึกษาและร่วมดำเนินการมาโดยตลอด รวมทั้งบริษัทโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆหลายแห่ง อาทิ SPRC โรงแยกก๊าซ ปตท. สทร. ฯลฯ ได้เข้ามาร่วมไม้ร่วมมือกันสนับสนุนกิจกรรมนี้มาโดยตลอด ซึ่งแต่ละโรงงานมาร่วมกิกรรรมกันโดยที่ วิสาหกิจชุมชนฯเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนร่วมกันและได้สนับสนุนร่วมกันกับเทศบาลตำบลเนินพระมาโดยตลอด เราเริ่มมีการเพาะพันธุ์กล้าไม้ป่าชายเลน และจัดหาพันธุ์ไม้ป่าชายเลนมาเพาะเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพของป่า ซึ่งเดิมมีความสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด และนกชนิดต่างๆ สัตว์น้ำมากมายสายพันธุ์ได้สูญหายไปพร้อมความเสื่อมโทรมของป่าชายเลน ที่ผ่านมา


บัดนี้ เราพร้อมผนึกกำลังภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่างๆ เพื่อพัฒนาฟื้นฟูป่าชายเลนเทศบาลตำบลเนินพระฯอย่างเป็นระบบและมีความเข้มข้นต่อเนื่องต่อไป โดย ในปีหน้า จะได้เชิญชวนภาคีเครือข่ายจากภาคอุตสาหกรรม CSR ชุมชนและเทศบาลตำบลเนินพระฯ จัดทำ MOU อย่างเป็นทางการร่วมกัน พัฒนาฟื้นฟูป่าชายเลนเทศบาลตำบลเนินพระ ซึ่งมีนโยบายและแผนงานอยู่แล้ว เป็นการผนึกกำลังกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่ง ชาวชุมชนและชาวประมงเรือเล็ก มุ่งมั่นมากในโครงการฟื้นฟูป่าชายเลน เพราะเป็นป่าชายเลนผืนสุดท้ายของเรา เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นแหล่งอาหาร และ เป็นปอดของชุมชนและเมืองระยอง และเทศบาลฯกำลังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนซึ่งจะสร้างเศรษฐกิจรายได้ที่ยั่งยืนแก่ชุมชนต่อไป ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ด้วยครับ ขอเรียนเชิญ ร่วมพัฒนาฟื้นฟูป่าชายเลน โทร ลำเพย แว่วเสียง 087-140-0261

Dow รับรางวัลรับผิดชอบต่อสังคมระดับแพลตินัมปีที่ 4 จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย

Dow รับรางวัลรับผิดชอบต่อสังคมระดับแพลตินัมปีที่ 4 จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย

กรุงเทพฯ – 24 พฤศจิกายน 2566 – กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) รับรางวัล “องค์กรที่มีผลงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่นประจำปี 2566 ระดับแพลตินัม” (2023 AMCHAM Corporate Social Impact Awards with Platinum Level) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 จากการทำกิจกรรมเพื่อสังคมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายณัฐพงศ์ จิรวัฒนาวรกุล ผู้จัดการแผนกิจการเพื่อสังคมและชุมชนสัมพันธ์ เป็นผู้รับมอบรางวัลจาก คุณโรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และมี คุณเด็บบราห์ ไซเฟิร์ต รองประธานกรรมการหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดี ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

รางวัล AMCHAM Corporate Social Impact Awards หรือชื่อเดิมว่า AMCHAM CSR Excellence Awards จัดขึ้นทุกปีเพื่อยกย่องบริษัทสมาชิกหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยที่เป็นแบบอย่างในการดำเนินงานด้านธุรกิจควบคู่กับการดูแลสังคม โดย Dow เน้นการส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม ผลักดันการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ใส่ใจดูแลชุมชนรอบข้าง และส่งเสริมการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ จึงได้รับการยกย่องให้เป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่นเป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน และได้รับรางวัล “ระดับแพลตินัม” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Dow ในการสร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคมผ่านการทำธุรกิจและกิจกรรมที่มีคุณค่าและต่อเนื่องในประเทศไทย

THE LIGHTER THAILAND

50 จังหวัด ร่วมประกวด “ปฏิบัติการเคมีย่อส่วน DOW-CST AWARD” ย้ำผลสำเร็จ “ห้องเรียนเคมีดาว” สร้างประโยชน์ทั่วประเทศ

50 จังหวัด ร่วมประกวด “ปฏิบัติการเคมีย่อส่วน DOW-CST AWARD” ย้ำผลสำเร็จ “ห้องเรียนเคมีดาว” สร้างประโยชน์ทั่วประเทศ

 กรุงเทพฯ – 17 พฤศจิกายน 2566 – กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และพันธมิตรในโครงการ “ห้องเรียนเคมีดาว”  เปิดเวทีนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์เป็นปีที่ 9 ชิงแชมป์การประกวดโครงงานทดลองเคมีแบบย่อส่วน  DOW-CST AWARD  ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งมีโรงเรียนทั่วประเทศส่งเข้าประกวดถึง 132 โครงงาน จาก 50 จังหวัด สะท้อนผลสำเร็จในส่งเสริมให้คุณครูทั่วประเทศนำเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน (Small-Scale Chemistry Laboratory) ไปใช้ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในห้องเรียน ด้วยจุดเด่นของชุดการทดลองมีขนาดเล็ก ปลอดภัยสูง และราคาถูก ช่วยสร้างโอกาสที่เท่าเทียมด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์ให้เด็กไทยได้ลงมือทดลองจริง แม้ในโรงเรียนที่ห่างไกล รวมทั้งรู้จักการประยุกต์ใช้สิ่งของในท้องถิ่นมาทดลอง ช่วยสร้างความเข้าใจในเนื้อหา และสร้างทัศนคติที่ดีในการศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์ซึ่งยังเป็นสาขาที่มีความต้องการอีกมากในประเทศไทย

Dow ได้ร่วมกับสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ (CST) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) และ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ส่งผลงานการทดลองที่ออกแบบภายใต้หลักการของ “เทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน” เข้าร่วมประกวด DOW-CST AWARD ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 ในหัวข้อ Green Chemistry ซึ่งในปีนี้มียอดผู้เข้าร่วมประกวดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 132 ทีม จาก 50 จังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศ เป็นการเน้นย้ำถึงผลสำเร็จที่มีการนำวิธีการสอนแนวใหม่ไปใช้ในห้องเรียนอย่างทั่วถึง ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการทดลองวิทยาศาสตร์แม้ในจังหวัดห่างไกล

การประกวดรอบชิงชนะเลิศได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ที่ห้าง เดอะ สตรีท รัชดา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ โดยมีทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 32 ทีม ในงานมีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนด้านวิทยาศาสตร์มากมายที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ด้วย อาทิ การแสดง “วิทยาศาสตร์แสนสนุก” โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ การแนะแนวสายอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ โดยกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย การเล่นเกมส์ตอบคำถามวิทยาศาสตร์ชิงรางวัลบนเวที ช่วงพูดคุยสร้างแรงบันดาลใจ “มหัศจรรย์ของธาตุและถิ่นที่อยู่” โดยคุณอาจวรงค์ จันทมาศ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ชื่อดัง จากรายการ The Standard Podcast “ใด ๆ ในโลกล้วนฟิสิกส์”

นายสุพจน์ เกตุโตประการ รองประธานบริหารฝ่ายธุรกิจ และพัฒนาธุรกิจคาร์บอนต่ำ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow มุ่งสนับสนุนการพัฒนาการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับเยาวชนไทย เพื่อสร้างนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ที่จะคิดค้นนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยในอนาคต โครงการห้องเรียนเคมีดาว ไม่เพียงเพิ่มโอกาสที่เท่าเทียมในการทดลองเคมีให้กับเด็กไทยทั่วประเทศเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะใช้สารเคมีน้อย ช่วยลดของเสียจากการทดลอง อีกทั้งช่วยประหยัดพลังงานและลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตและขนส่งอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ รวมทั้งสารเคมีจำนวนมากที่แต่ละโรงเรียนต้องใช้”

          ศ.ดร.วุฒิชัย พาราสุข นายกสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “การทำการทดลองด้วยเทคนิคปฏิบัติการแบบย่อส่วนจะทำให้ผู้เรียนเกิดการคิด วิเคราะห์ และเข้าใจหลักการทางเคมีได้อย่างลึกซึ้ง จึงเหมาะที่นำมาใช้ร่วมกับการเรียนการสอนในโรงเรียน นอกจากจะสร้างทักษะให้นักเรียน ยังสร้างความมั่นใจให้นักเรียนสามารถทดลองเองได้อย่างปลอดภัยและกล้าคิด กล้าออกแบบการทดลองใหม่ ๆ เพื่อแก้ปัญาหาต่าง ๆ อันจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การคิดค้นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยต่อไป”

นายเอกสิทธิ์ ปิยะแสงทอง ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “การประกวดในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งผลสำเร็จที่ชัดเจนของของ สพฐ. และพันธมิตรจากการนำเคมีแบบย่อส่วนเข้ามาช่วยในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ไทย เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสทางวิทยาศาสตร์ที่หลากหลายและทันสมัยให้กับนักเรียนทั่วประเทศ ได้เรียนรู้และทดลองเคมีที่มีขนาดเล็กและปลอดภัย สามารถเข้าถึงการศึกษาทางวิทยาศาสตร์แม้ในพื้นที่ห่างไกล คุณครูได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในบทเรียนในหลักสูตรให้สอดรับกับบริบทของท้องถิ่นได้จริง จนสามารถส่งโครงงานที่มีความคิดสร้างสรรค์สู่เวทีการประกวดได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งสพฐ.ตั้งใจว่าจะขยายผลการสอนด้วยการทดลองเคมีแบบย่อส่วนให้ไปถึงโรงเรียนจำนวนมากยิ่งๆ ขึ้นต่อไป และหวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมประกวดมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ปี”

         ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า “ชุดทดลองห้องปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน (Small-Scale Chemistry Laboratory) เป็นนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้การเรียนเคมีเป็นเรื่องง่ายและสนุก เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และที่สำคัญคือเปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่มีห้องปฏิบัติการเคมี สามารถคิดและทำโครงงานด้านเคมีได้อย่างหลากหลาย อพวช. เชื่อมั่นว่าการที่เด็กและนักเรียนสามารถเข้าถึงและใช้งานห้องปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนนี้ได้ จะเป็นการปลูกฝังความรักและความสนใจในวิชาเคมีมากขึ้น และขยายผลต่อความสนใจในวิทยาศาสตร์สาขาอื่น ๆ อีกด้วย

          ผลการแข่งขัน DOW-CST AWARD ครั้งที่ 9 ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกอบด้วย 1) รางวัลยอดเยี่ยม ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 40,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศ จากศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  ได้แก่ โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง จ. ปราจีนบุรี จากโครงงาน Electric Greenery 2) รางวัลดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์  จ. นครปฐม จากโครงงานอัตราการสลายตัวของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เมื่อใช้เม็ดวุ้นอัลจิเนตผสมแมงกานีสออกไซด์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท 3) รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนเมืองนครนายก จ. นครนายก และโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย จ. กรุงเทพฯ ได้รับเงินรางวัลทีมละ 5,000 บาท

ผลการแข่งขันในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประกอบด้วย 1) รางวัลยอดเยี่ยม ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 40,000 บาท พร้อมโล่รางวัลเกียรติยศ จากศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้แก่ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 จ. สงขลา จากโครงงานชุดปฏิบัติการเคมีย่อส่วน เรื่องการแพร่ 2) รางวัลดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จ. เชียงราย จากโครงงานปัจจัยที่มีผลต่อการแพร่ของแก๊ส ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท 3) รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนโยธินบูรณะ จ. กรุงเทพฯ และโรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง จ. ปราจีนบุรี ได้รับเงินรางวัลทีมละ 5,000 บาท

นอกจากนี้ โครงการฯ ได้มอบรางวัลพิเศษ หรือรางวัล Popular View จำนวน 1 รางวัล ให้กับทีมที่มียอดชมคลิปการทดลองสูงสุดบน YouTube ของ Dow Thailand โดยตัดสินจากยอดการชมวิดีโอเท่านั้น ได้แก่ โรงเรียนสตูลวิทยา จ. สตูล ซึ่งได้รับเงินรางวัลพิเศษ 10,000 บาท

สำหรับคุณครูที่ปรึกษาของทั้ง 32 ทีม ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ จะได้รับสิทธิเข้าร่วมประชุมวิชาการนานาชาติ Pure and Applied Chemistry International Conference (PACCON 2024) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 มกราคม 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ พร้อมได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิกของสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ และเป็นครูต้นแบบของโครงการฯ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้และศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งครูที่ผ่านการฝึกอบรมภายใต้โครงการ “ห้องเรียนเคมีดาว” จะสามารถนำชั่วโมงการอบรมบรรจุในการขอหรือเลื่อนวิทยาฐานะของครูผู้สอนได้ต่อไป

THE LIGHTER THAILAND

เพราะเราให้คุณมากว่าข่าว

Exit mobile version