เรื่องทั้งหมดโดย mwin

SPRC จัดโครงการศึกษาดูงานพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชน ด้านการทำแปลงเกษตรและการทำศูนย์เรียนรู้อย่างมืออาชีพ

SPRC จัดโครงการศึกษาดูงานพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชน ด้านการทำแปลงเกษตรและการทำศูนย์เรียนรู้อย่างมืออาชีพ

23 เมษายน 2567: บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC จัดโครงการ “ศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชน ด้านการทำแปลงเกษตรและการทำศูนย์เรียนรู้อย่างมืออาชีพ” ณ อรุณฟาร์มวิลเลจ จังหวัดชลบุรี

โครงการนี้มุ่งมั่นส่งเสริมความรู้และเตรียมความพร้อมให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นเกี่ยวกับการเกษตรยุคใหม่ การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ที่ยั่งยืน และการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำผ่านเทคนิคการทำผักยกแคร่

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยฐานบรรยายความรู้หลากหลายหัวข้อ อาทิ เทคโนโลยีการเกษตร การเพาะเชื้อไตรโคเดอร์ม่า และลงพื้นที่จริงเพื่อศึกษาการทำผักยกแคร่

คุณพรทิพย์ วีระพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กิจกรรมเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมและโครงการพิเศษ SPRC กล่าวในพิธีเปิดว่า “SPRC มุ่งมั่นส่งเสริมความยั่งยืนของชุมชนรอบโรงงานผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ หวังให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี พัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความมุ่งมั่นของ SPRC ที่ต้องการสนับสนุนให้ชุมชนมีองค์ความรู้ นำไปต่อยอดพัฒนาศักยภาพด้านการเกษตร ก่อตั้งศูนย์เรียนรู้ และแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำ นำไปสู่ความมั่นคงทางอาหารและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

โครงการนี้ได้รับการตอบรับจากชุมชนเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานหนองหวายโสม, วิสาหกิจชุมชนพัฒนาอาชีพการเกษตร ชุมชนวัดมาบตาพุด, วิสาหกิจชุมชนพัฒนาอาชีพเสริม ชุมชนวัดมาบตาพุด, วิสาหกิจชุมชนวัดชากลูกหญ้า, ชุมชนบ้านล่าง, และชุมชนห้วยโป่งใน 1

SPRC มุ่งมั่นที่จะสานต่อโครงการดีๆ เช่นนี้ต่อไป เพื่อร่วมพัฒนาชุมชนรอบโรงงานให้มีความเจริญก้าวหน้าและยั่งยืน

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว THE LIGHTERTHAILAND ได้ที่นี่ https://web.facebook.com/LighterThailand/

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงานเก็บการสารเคมีอุตสาหกรรมวินโพรเสส

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงานเก็บการสารเคมีอุตสาหกรรมวินโพรเสส สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมสถานการณ์ไฟที่ปะทุ และจัดทำแผนการเยียวยา ปชช. ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้ตำหนิอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ชี้ ปชช. เดือดร้อน แต่กลับลงพื้นที่ช้าทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปติดตามสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม วินโพรเสส ม.4 บ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยมีนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ สรุปภาพรวมสถานการณ์ให้รับทราบ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงพี่น้อง ปชช. ที่อยู่ใกล้โรงงาน และอาศัยอยู่พื้นที่อันตรายตรงนี้ จึงได้สั่งการ โดยขอให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้ดูแลควบคุมเหตุไฟปะทุ และเพลิงไหม้จนเข้าสู่สภาวะปกติ และจัดทำแผนเยียวยา ปชช. ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ขอให้ประชาสัมพันธ์ให้ ปชช. ที่ได้รับผลกระทบไปลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านค่าย ศูนย์ดำรงธรรม ต.หนองบัว และ ต.บางบุตร เพื่อเป็นข้อมูลเยียวยาฟื้นฟู ตามพระราชบัญญัติ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศตามชุมชน และรายงานผลให้ทราบ เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพ ปชช. เร่งจัดการกากอันตรายไปกำจัดให้ถูกต้อง และให้เตรียมความพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาในช่วงฤดูฝนที่อาจจะมีวัตถุอันตรายรั่วไปนอกพื้นที่ให้กรมโรงงานกำหนดมาตรการที่ชัดเจน รวมทั้งให้กรมโรงงานฯ และอุตสาหกรรมจังหวัด บูรณาการตรวจสอบโรงงานประเภทนี้ทั่วประเทศ และจัดทำแนวทาง และมาตรการไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก ขอให้กรมการปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินสอบสวนหาผู้กระทำผิด ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้ตำหนินายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ลงพื้นที่เกิดเหตุช้า ซึ่งนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ถูกต้องที่ลงพื้นที่ช้า ซึ่ง ปชช.เดือดร้อน จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้รับหนังสือร้องเรียนจากเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และ ปชช.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ก่อนจะขึ้นรถตู้ออกจากโรงงาน โดยมี ปชช. กลุ่มหนึ่งรออยู่ทางออกโรงงาน โดยถือป้ายประท้วงโรงงาน ขอให้นายกรัฐมนตรีจัดการนำสารเคมีออกไปโดยเร็ว แต่รถของนายกรัฐมนตรี ไม่จอดลงมาดูแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ปฏิบัติงานรอรับนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจนเป็นลม เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำส่ง รพ.บ้านค่าย เพื่อปฐมพยาบาล.

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว THE LIGHTERTHAILAND ได้ที่นี่ https://web.facebook.com/LighterThailand/

เงื่อนไขแจกเงินให้ครอบครัวที่ดูแลผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน เริ่มเดือน พ.ค. 2567

เงื่อนไข แจกเงิน 3,000 บาท

การขอคุ้มครองดูแลผู้สูงอายุให้ขอได้เพียงคราวละ 1 คน หากจะรับมากกว่านั้น ให้ระบุเหตุผล และความจ้าเป็นที่จะต้องรับผู้สูงอายุไว้คุ้มครองดูแลมากกว่า 1 คน

คุณสมบัติการขออุปถัมภ์ผู้สูงอายุ ได้ 3000 บาทต่อเดือน

  • สัญชาติไทย
  • มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีซึ่งมีความพร้อมและศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุ อาจได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการเป็นรายๆ ไป
  • มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับผู้สูงอายุ
  • ได้รับความยินยอมจากสมาชิกทุกคนในครอบครัวว่ามีความพร้อมในการคุ้มครองผู้สูงอายุ
  • ไม่เป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

ยื่นขอเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ได้ที่

  • ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด
  • ในจังหวัดอื่น ให้ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุที่อยู่ในจังหวัดนั้น

เอกสารหลักฐาน

  • ทะเบียนบ้าน
  • บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวประเภทหนึ่งประเภทใดที่มีเลขประจำตัวประชาชน
  • รูปถ่ายหน้าตรง ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 1 รูป

ซึ่งหลังจากนั้นจะมีนักสังคมสงเคราะห์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายไปเยี่ยมบ้านของผู้ยื่นคำขอ และผู้สูงอายุเพื่อสอบข้อเท็จจริงให้ได้ข้อมูลประวัติบุคคล ครอบครัว บุคคลที่เกี่ยวข้อง สภาพความเป็นอยู่ และความเหมาะสม เพื่อตวรจสอบข้อเท็จจริงนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาคุณสมบัติต่อไป

จำนวนเงินที่จะได้รับ

จะได้รับครอบครัวละ 2,000 บาท ต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและเหมาะสม อาจพิจารณาให้เงินช่วยเหลือได้ไม่เกินครอบครัวละ 3,000 บาทต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน

ทั้งนี้ โครงการครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ จะเริ่มในเดือน พ.ค. 2567 โดยปีแรกตั้งงบประมาณรองรับ 1,100 ราย

รายงานความก้าวหน้า โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) ( ช่วง 1 มกราคม 2567 – 31 มีนาคม 2567 )

รายงานความก้าวหน้า โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1)
( ช่วง 1 มกราคม 2567 – 31 มีนาคม 2567 )

ข้อมูลโดย การนิคมอุตสาหกรรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยสำนักงานบริหารโครงการ เจ้าของโครงการ, กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาโครงการ PMSC, บริษัทกัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจีเทอร์มินอล จำกัด (GMTP) เอกชนคู่สัญญาบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ITD) ผู้รับจ้าง สำหรับ ความคืบหน้าของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3
1. ปัจจุบันความก้าวหน้าโครงการอยู่ที่ 78.62% โดยแผนงานกำหนดไว้ที่ 85.76% ซึ่งมีความก้าวหน้าใกล้เคียงกับแผน โดยเป็นข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567

2. มาตรการความปลอดภัยและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำคัญๆ ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น การติดตั้งทุ่นและไฟสัญญาณและเครื่องหมายบอกตำแหน่งแสดงอาณาเขตบริเวณพื้นที่ก่อสร้างในทะเลของโครงการ การควบคุมการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ทั้งทางบกและทางทะเลให้มีความปลอดภัย การติดตั้งม่านกันตะกอนในพื้นที่การขุดลอกเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของตะกอน การตรวจวัดด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรการ EHIA เช่น การตรวจวัดคุณภาพอากาศ การตรวจวัดคุณภาพน้ำทะเล การตรวจวัดคุณภาพเสียงและความสั่นสะเทือน การเก็บตัวอย่างนิเวศวิทยาทางทะเล เป็นต้น ซึ่งค่าต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนด

3. กิจกรรมพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมชุมชน (CSR)
โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบบตาพุด ระยะที่ 3 ได้ดำเนินการกิจกรรม พัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมชุมชน (CSR) ในช่วง มกราคม-มีนาคม 2567 ได้แก่ การเข้าร่วมกิจกรรมสืบสานประเพณี บุญข้าวหลามร่วมกับชุมชนตากวนอ่าวประดู่ กิจกรรมทำความสะอาดบริเวณชายหาด ณ บริเวณที่ทำการกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านพลา-อู่ตะเภาสามัคคี กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จังหวัดระยอง ปีที่ 22 ณ บริเวณที่ทำการกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านพลา-อู่ ร่วมกิจกรรมสืบสานประเพณี บุญข้าวหลามร่วมกับกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านหนองแฟบ ร่วมดำเนินการต้อนรับคณะศึกษาดูงาน จากเทศบาลตำบลแสลงพัน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี มาร่วมศึกษาดูงานธนาคารจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนประมงเล็กพื้นบ้านหาดสุชาดา และร่วมติดตามใส่ปุ๋ย EM Ball ณ ศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลนเทศบาลตำบลเนินพระ เข้าร่วมกิจกรรมสืบสานประเพณี ร่วมเป็นเจ้าภาพติดกัณฑ์เทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก ณ วัดพลา จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้พัฒนาการบริหารจัดการ ของ ประมงวิสาหกิจเรือเล็กหนองแฟบและกลุ่มวิสาหกิจสวนคุณย่า เพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจชุมชน สนับสนุนคอนกรีตผสมเสร็จจำนวน 6 คิว งานเทพื้นโรงเรือนอาคารอนุรักษ์ฟื้นฟูสาหร่ายพวงองุ่น บ่ออนุบาลไข่หมึกและปูไข่ดำ ณ วัดบ้านพลา ผู้บริหารของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) ร่วมกับ เทศบาลเนินพระ ร่วมกิจกรรมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ณ ป่าชายเลนเนินพระ และ ร่วมต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีจำกัด มาเยี่ยมชม ผสมผสาน เศรษฐกิจพอเพียงวิสาหกิจชุมชนสวนคุณย่าหนองแฟบ
เป็นต้น

4. แผนการก่อสร้างใน ระยะ 3 เดือนต่อไป (เมษายน 2567 – มิถุนายน 2567
4.1 งานก่อสร้างเขื่อนกันทราย (Revetment) งานก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น (Breakwater) และงานก่อสร้างท่าเทียบเรือบริการ (Service Tugboat Port) 4.2 งานก่อสร้างสะพานทางเข้า-ออก ของโครงการ
4.3 งานขุดลอกและถมทะเล 4.4 การหล่อและติดตั้งคอนกรีตสำเร็จรูป (Caisson) 4.5 การขนส่งวัสดุก่อสร้างทางทะเล 4.6 งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
สามารถศึกษาข้อมูล/รายละเอียดเพิ่มเติม สำนักงานบริหารโครงการ. www.maptaphut3.com ติดต่อประสานงาน ที่นายศุภโชค ศิลปเจริญ โทร. 086-0992588 (คุณแมน)

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง ออกเยี่ยมจุดตรวจ

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง ออกเยี่ยมจุดตรวจและติดตามการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 จังหวัดระยอง


วันที่ 11 เมษายน 2567 กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดย นายสิทธิพร กาสรสุวรรณ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งพนักงานคุมประพฤติชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง และนางสาวอรศิริ ลีลาพิทักษ์ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และอำนวยการ ออกเยี่ยมจุดตรวจและติดตามการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

พร้อมทั้งตรวจติดตามผลการดำเนินงานของจุดตรวจ รับทราบปัญหาการปฏิบัติงานตลอดจนการให้คำปรึกษาและแนะนำการปฏิบัติงาน แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 5 จุดตรวจ ได้แก่ 1.จุดตรวจหลักบริเวณสี่แยกพัฒนา หมู่ที่ ๒ ตำบลห้วยทับมอญ/องค์การบริหารส่วนตำบลเขาชะเมา2.จุดตรวจหลักบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรน้ำเป็น หมู่ที่ ๑ ตำบลน้ำเป็น/องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำเป็น3.จุดตรวจรองบริเวณสามแยกมะเดื่อ หมู่ที่ ๒ ตำบลเขาน้อย/องค์การบริหารส่วนตำบลเขาน้อย4.จุดตรวจรองบริเวณสี่แยกเขาช่องลม หมู่ที่ ๔ ตำบลชำฆ้อ/เทศบาลตำบลชำฆ้อ 5.ด่านชุมชนบริเวณหน้าเทศบาล ตำบลชำฆ้อ หมู่ที่ ๒/เทศบาลตำบลชำฆ้อ ทั้งนี้การปฏิบัติงานทุกจุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน เครื่องมือ และอุปกรณ์ ต่างๆ มีความพร้อมในการใช้งาน

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง เข้าร่วมเปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดระยอง พ.ศ.2567

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง เข้าร่วมเปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดระยอง พ.ศ.2567

วันที่ 10 เมษายน 2567 กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยนายสิทธิพร กาสรสุวรรณ พนักงานคุมประพฤติ ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งพนักงานคุมประพฤติชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง นางนภารัตน์ ตันยะบุตร พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มคุมประพฤติพื้นที่ 1 และนางสาวอรศิริ ลีลาพิทักษ์ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และอำนวยการพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/ทางน้ำ การบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดะยอง พ.ศ.2567,กิจกรรมรณรงค์”วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน”จังหวัดระยอง พ.ศ.2567 และกิจกรรมรณรงค์สร้างจิตสำนักและการสร้างเครือข่ายเกี่ยวกับการใช้ทางม้าลาย

ภายใต้หัวข้อ ”ยานพาหนะทุกคันหยุดตรงทางม้าลาย คนเดินเท้าใช้ทางม้าลายและทางข้ามทุกครั้ง” “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ประจำปีงบประมาณพ.ศ.2567 โดยมี นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิด ณ ศูนย์จำหน่ายวัสดุต่อเติมบ้าน โฮมโปร สาขาระยอง (ถนนสุขุมวิท) อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง

จิรัฏฐ์นนท์  ฐิตะสิริ/รายงาน

จ.ระยอง จัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวในพื้นที่ ภายใต้งานสืบสานตำนานเมืองเก่า 4 แห่ง (เมืองแกลง) ‘เมืองเก่าเล่าเรื่องเมืองแกลง’

จ.ระยอง จัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวในพื้นที่ ภายใต้งานสืบสานตำนานเมืองเก่า 4 แห่ง (เมืองแกลง) ‘เมืองเก่าเล่าเรื่องเมืองแกลง’ มุ่งเผยแพร่เอกลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตของพื้นที่ ตลอดจนภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดระยอง ปลูกฝังความภาคภูมิใจในความเป็นไทยสู่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 5 เม.ย.67 ที่หอประวัติศาสตร์เมืองแกลง ถนนสุนทรโวหาร ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดงานสืบสานตำนานเมืองเก่า 4 แห่ง (เมืองแกลง) ‘เมืองเก่าเล่าเรื่องเมืองแกลง’ ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง เทศบาลตำบลเมืองแกลง ระหว่างวันที่ 5-6 เม.ย.นี้ มีนายกันตพล สุขสงค์ นอภ.แกลง นางกัญญ์ชลา สุขิตรกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง นายวิเชียร ทองด้วง อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง นายคีรีวัฒน์ อ้นพร้อม ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง นายวีรวิชญ์ ภมรสมิต พลังงานจังหวัดระยอง นายวรวุฒิ ด่านสมพงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดระยอง น.ส.สายฝน โชชัย คลังจังหวัดระยอง นางจิรนันท์ บัวสำลี พาณิชย์จังหวัดระยอง นายสันติชัย กังสวานิช นายกเทศมนตรีตำบลเมืองแกลง ร่วมงานฯ ภายในงานมีกิจกรรมเดินแบบผ้าไทย ผ้าพื้นถิ่นระยอง โดยนายแบบ นางแบบกิตติมศักดิ์ ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดระยอง ภาคเอกชน ผู้แทนสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระยอง สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระยอง ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ การแสดงนิทรรศการเมืองแกลงในอดีต การแต่งกาย และการแสดงบนเวทีที่สื่อถึงวิถีชีวิตพื้นถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่นชาวเมืองแกลง รวมทั้งการจำหน่ายอาหารคาวหวาน และสินค้าพื้นถิ่น

ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าว ได้กำหนดจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวใน 4 อำเภอ คือ อ.บ้านค่าย อ.บ้านฉาง อ.เมืองระยอง และ อ.แกลง ที่มีวัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตในอดีตที่มีความหลากหลาย โดยเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยววิถีไทย Soft Power เผยแพร่เอกลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตของพื้นที่ ตลอดจนภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดระยอง ปลูกฝังความภาคภูมิใจในความเป็นไทยสู่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งกระตุ้นกระแสการเดินทางท่องเที่ยวเชิงวิถีไทย และดึงดูดกลุ่มผู้ที่มีความชื่นชอบเอกลักษณ์ของความเป็นไทยที่มีความหลากหลาย กลุ่มคนทำงานที่ต้องการผ่อนคลายความตึงเครียด และกลุ่มเยาวชนที่ต้องการมีกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อนให้เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดระยองให้มากขึ้น.

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว THE LIGHTERTHAILAND ได้ที่นี่ https://web.facebook.com/LighterThailand/

Dow จับมือ ศศินทร์ สานพลังรักษ์โลกกับคนรุ่นใหม่ ใน “FLY Volunteers Bangkok Summer Camp 2024”

Dow จับมือ ศศินทร์ สานพลังรักษ์โลกกับคนรุ่นใหม่

ใน  “FLY Volunteers Bangkok Summer Camp 2024”

 

กรุงเทพฯ – เมษายน 2567 – กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาฯ จัดกิจกรรมค่ายผู้นำเยาวชนด้านสิ่งแวดล้อมรวม วัน ให้กับน้อง ๆ ม.ต้น จากโรงเรียนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อสร้างเสริมทัศนคติและพฤติกรรมที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และสัมผัสเชื่อมโยงกับธรรมชาติ พร้อมกับพัฒนาทักษะและศักยภาพให้เยาวชนไทยสามารถเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและมีส่วนร่วมในการลงมือปฏิบัติจริงเพื่อพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยมีนายประทรรศน์ สูตะบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นประธานเปิดค่าย และ ดร.อรทัย พงศ์รักธรรม ผู้จัดการแผนกกิจการด้านความยั่งยืน ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ในแวดวงวิชาการและองค์กรระดับนานาชาติ ร่วมถึงการดำเนินงานในปัจจุบันร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในหลากหลายโครงการด้านการต้านโลกร้อน เปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ และส่งเสริมวงจรรีไซเคิล ร่วมแชร์มุมมอง ชวนน้อง ๆ ขบคิด ตั้งคำถาม และนำไปเป็นแนวทางประยุกต์ใช้กับโครงการหรือการดำเนินชีวิตประจำวันต่อไปในอนาคตได้ระหว่างการเสวนาหัวข้อ “ทักษะผู้นำเยาวชนในยุคโลกรวน” พร้อมกันนี้ยังได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินโครงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว THE LIGHTERTHAILAND ได้ที่นี่ https://web.facebook.com/LighterThailand/

ผู้ว่าฯ ระยอง โชว์ห่อทุเรียนด้วยนวัตกรรมถุงแดงให้ได้ทุเรียนคุณภาพ สร้างความมั่นใจผู้บริโภค

ผู้ว่าฯ ระยอง โชว์ห่อทุเรียนด้วยนวัตกรรมถุงแดงให้ได้ทุเรียนคุณภาพ สร้างความมั่นใจผู้บริโภค

ผู้ว่าฯ ระยอง โชว์ห่อทุเรียนด้วยนวัตกรรมถุงแดงที่สามารถทำให้เปลือกทุเรียนบาง และได้เนื้อทุเรียนมากขึ้น และป้องกันสารเคมีได้ด้วย ภายใต้โครงการ “ผู้ว่าฯ..การันตี ทุเรียนดีเมืองระยอง” สร้างความมั่นใจผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวในทุเรียนระยอง
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 3 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง พร้อมด้วย น.ส.สลารีวรรณ ทัพทวี รอง ผวจ.ระยอง นายวิจิตร พลาพลงาม นอภ.วังจันทร์ น.ส.วรนุช สีแดง เกษตรจังหวัดระยอง นายมานพ โปษยาอนุวัตร์ เกษตรอำเภอวังจันทร์ นายวิเชียร ทองด้วง อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และนายคีรีวัฒน์ อ้นพร้อม ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ร่วมห่อผลทุเรียนที่มีขนาดอายุ 60 วัน ด้วยถุงแดง Magik Growth แปลงทุเรียนพื้นที่ 5 ไร่ ของนายจรูญ โพธิ์ทอง ประธานเกษตรแปลงใหญ่ทุเรียนบ้านเขาหินแท่น ม.2 ต.วังจันทร์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ภายใต้โครงการ “ผู้ว่าฯ..การันตี ทุเรียนดีเมืองระยอง” ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ทุเรียนระยอง ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และเพื่อเป็นสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวว่าทุเรียนระยองมีคุณภาพ “ทุเรียนดี ทุเรียนอร่อย ต้องทุเรียนระยอง”

นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยอง ได้ยกระดับส่งเสริมรณรงค์ให้ชาวสวนทุเรียนผลิตทุเรียนพันธุ์คุณภาพโดยใช้หลักวิชาการเกษตรสมัยใหม่มาเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพ และจังหวัดระยองได้เปรียบหลายๆ พื้นที่ เนื่องจากมีสภาพอากาศ ดิน และน้ำที่เอื้ออำนวยทำให้ผลผลิตทุเรียนของระยองมีรสชาติหอม หวาน เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคของชาวไทย และต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ไต้หวัน และฮ่องกง โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทองของระยอง ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้มีการขึ้นทะเบียน GI ซึ่งเป็นความความภาคภูมิใจของจังหวัด ซึ่งเป็นการบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์แหล่งที่มาของทุเรียนระยอง การันตีได้ว่าทุเรียนระยองมีคุณภาพ

สำหรับผลผลิตทุเรียนในปีนี้ของระยอง จะเริ่มออกสู่ตลาดราวปลายเดือน เม.ย.-มิ.ย. นี้ จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้เข้ามาท่องเที่ยวระยอง มาชิมทุเรียนคุณภาพรสชาติอร่อย และยังมีผลไม้ เช่น เงาะ มังคุด และอื่นๆ ให้เลือกซื้อหากลับไปฝากญาติพี่น้องได้ด้วย
ด้านนายจรูญ โพธิ์ทอง ประธานเกษตรกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ทุเรียนบ้านเขาหินแท่น กล่าวว่า การห่อทุเรียนด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีถุงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หรือถุงแดง (Magik Growth) เพื่อเพิ่มคุณภาพและผลผลิตทุเรียน ซึ่งเป็นผลงานวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จากการวิจัยพบว่า สามารถเพิ่มน้ำหนักผล 8-10 เปอร์เซ็นต์ เปลือกทุเรียนบางลง ผิวเปลือกสวย มีอัตราเปลี่ยนเปลือกเป็นเนื้อทุเรียนมากขึ้น ป้องกันหนอนเจาะผลทุเรียน ช่วยลดและป้องกันการใช้สารเคมีลงได้ และยังสามารถนำถุงกลับมาใช้ใหม่ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย.

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว THE LIGHTERTHAILAND ได้ที่นี่ https://web.facebook.com/LighterThailand/

โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ร่วมงานมหกรรมเล่าขาน ตำนานเมืองระยอง ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่าน โครงการ CSR สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ร่วมงานมหกรรมเล่าขาน ตำนานเมืองระยอง ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่าน โครงการ CSR สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

31 มีนาคม 2567 – บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี) โดยคุณอดิศร วังมูล
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและองค์กรสัมพันธ์ นำคณะเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าฯ เข้าร่วมงาน มหกรรมเล่าขาน
ตำนานเมืองระยอง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 69 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในงานวันอนุรักษ์มรดกไทย ปี 2567
บริเวณถนนริมน้ำ ฝั่งโรงเรียนอนุบาลระยอง ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โดยมีนายกำธร เวหน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดงาน

การร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ได้มีโอกาสจัดแสดงนิทรรศการ สื่อสาร โครงการ CSR
(กิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม) ของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี อาทิ โครงการปุ๋ยจากเศษใบไม้
โครงการผักปลอดภัย โครงการเกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง ซึ่งเป็นโครงการที่มีการประยุกต์นำ
วิธีการของศาสตร์พระราชา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินงาน ตามหลัก ESG (Environmental,
Social, Governance) สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

อนึ่ง ภายในงานมีกิจกรรมการแสดง แสง สี เสียงสื่อผสมการแสดงทางวัฒนธรรมบนเวที
ร่วมด้วยการประกวดแข่งขันพูดภาษาถิ่นระยอง ประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง มอบโล่รางวัลขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรม
และมอบโล่ผู้สนับสนุนการจัดงาน นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายอาหารท้องถิ่น คาวหวาน เสื้อผ้า
ของดีจังหวัดระยอง ถือเป็นการอนุรักษ์ฟื้นฟูและเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ภาษา ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ที่มีความหลากหลาย เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดระยอง อย่างเป็นรูปธรรม
โดยงานดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน พ.ศ.2567

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว THE LIGHTERTHAILAND ได้ที่นี่ https://web.facebook.com/LighterThailand/