คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าว

ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับยุติธรรมจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และช่วยเหลือผู้เสียหาย กรณีไฟไหม้ถังสารเคมีระเบิด ณ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง

ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับยุติธรรมจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และช่วยเหลือผู้เสียหาย กรณีไฟไหม้ถังสารเคมีระเบิด ณ ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายสิทธิพร กาสรสุวรรณ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ รักษาการในตำแหน่ง พนักงานคุมประพฤติชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง ปฏิบัติหน้าที่ ยุติธรรมจังหวัดระยอง  และคณะเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้เดินทางมายังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (มาบตาพุด) จังหวัดระยอง เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ถังสารเคมีระเบิด ณ ตำบลมาบตาพุด จังหวัดระยอง รวมถึงพิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว นอกจากนั้น ยังได้เดินทางไปยังศูนย์ตรวจสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งให้กำลังใจประชาชน และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่

โดย นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ”การช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวงยุติธรรม หากพิสูจน์แล้วว่าสอดรับกับ พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 จะได้รับการเยียวยาครอบครัวละไม่เกิน 110,000 บาท ในส่วนของการบาดเจ็บจะได้รับการเยียวยาในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ รวมทั้งค่าตอบแทนความเสียหายอื่น นอกจากนั้น จะพิจารณาให้ความช่วยเหลืออื่นๆ ตามที่กระทรวงยุติธรรมสามารถให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้อีกด้วย

“สุดท้ายนี้ตนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต โดยกระทรวงยุติธรรมจะให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายต่อไป”

THE LIGHTER THAILAND

คุ้มครองสิทธิฯ จัดฝึกอบรมส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก

คุ้มครองสิทธิฯ จัดฝึกอบรมส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ภาคตะวันออก สร้างความตระหนักต่อการเคารพสิทธิ ไม่ละเมิดสิทธิและไม่ละเมิดกฎหมาย คาดหวังการละเมิดสิทธิลดลง

เมื่อเวลา 08.30 น (8 พ.ค.67) นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิด การจัดฝึกอบรมส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ณ โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง

โดยมี นางสาวกวิพันธ์ รอดคมศัลย์ หัวหน้าสถาบันพัฒนาสิทธิมนุษยชน กล่าวรายงานและได้รับเกียรติจากผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมในจังหวัดระยอง ได้แก่ นายณัฏฐกัลย์ ละเอียด ผอ.บังคับคดี นายพิทักษ์พงษ์ น้อยพิทักษ์ ผอ.ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง นายพิทักษ์ เสาทองหลาง นักทัณฑวิทยาชำนาญการพิเศษ ผู้แทนผบ.เรือนจำกลาง นายรณรงค์  ขุนชู ผอ.สถานพินิจ นางสาวมยุรี ชุ่มชื่น นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ ผู้แทนผอ.ศูนย์ฝึกฯ นายสิทธิพร กาสรสุวรรณ รักษาการ ผอ.คป และ ยจ.ระยอง นางสาวอรศิริ ลีลาพิทักษ์ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมระบบงานยุติธรรม สยจ.ระยอง  นางสาวชญานันท์ รักอิสสระ และ นายรัฐสภา  คูหา พนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการอบรม พร้อมด้วยคณะวิทยากรกระบวนการด้านสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่กองส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพร่วมเป็นวิทยากร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรส่วนท้องถิ่น องค์กรศาสนา และประชาชนทั่วไป ในจังหวัดระยอง ชลบุรี จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรีและสระแก้ว จำนวน 100 คน และอบรมผ่านออนไลน์โปรแกรม Cisco Webex Meeting จำนวน 210 คน ไปพร้อมกัน

ด้านนางสาวกวิพันธ์ รอดคมศัลย์ หัวหน้าสถาบันพัฒนาสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นหลักการพื้นฐานของประเทศเสรีประชาธิปไตยที่อยู่บนรากฐานของความเป็นนิติรัฐ เห็นได้จากรัฐธรรมนูญของแต่ละประเทศได้มีบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของประชาชนปรากฏไว้ในรัฐธรรมนูญฯ หรือบางประเทศได้ให้ความสําคัญถึงการรับรองและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ แม้ว่าการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเป็นเรื่องได้รับการรับรองด้วยบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และเป็นเรื่องที่รัฐจะต้องให้ความสําคัญเป็นลําดับแรก แต่ในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพบางประการ ประชาชนยังคงมีข้อจํากัดในการเข้าถึง เช่น สิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น ซึ่งข้อจํากัดมาจากหลายสาเหตุ ทําให้การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชนไม่ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และ ทั่วถึงดังเช่นที่กําหนดไว้ในบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ อีกด้วย

 

สำหรับการฝึกอบรมในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 10 พฤษภาคม 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปถ่ายทอดและขยายผลในเชิงป้องกันและการส่งเสริมในการแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง ลดการละเมิดสิทธิของผู้อื่น และลดการละเมิดกฎหมายทำให้สังคมเกิดความสงบสุข ต่อไป ….

THE LIGHTER THAILAND

SPRC ส่งมอบเครื่องเล่นสนามในสนามเด็กเล่นกลางแจ้งเพื่อน้อง

SPRC ส่งมอบเครื่องเล่นสนามในสนามเด็กเล่นกลางแจ้งเพื่อน้อง

30 เมษายน 2567 นางพรทิพย์ วีระพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กิจกรรมเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมและโครงการพิเศษ ผู้แทนบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ “SPRC” ส่งมอบเครื่องเล่นสนามในสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง จำนวน 2 ชุด มูลค่าประมาณ 60,000 บาท ให้กับชุมชนอิสลาม จังหวัดระยอง ซึ่งมีเด็กในชุมชนประมาณ 100 คน

ซึ่งการมอบเครื่องเล่นสนามในสนามเด็กเล่นกลางแจ้งครั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางการดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมของ SPRC โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่นโดยรอบโรงกลั่น โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่กำลังเติบโต SPRC ตระหนักดีว่าเด็ก ๆ ต้องการพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับการเล่นและเรียนรู้ และเครื่องเล่นเหล่านี้จะช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนาทักษะทางสังคมและร่างกาย สนุกสนานและเติบโตไปเป็นพลเมืองที่ดีของชุมชนต่อไป…

 

 

SPRC จัดโครงการศึกษาดูงานพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชน ด้านการทำแปลงเกษตรและการทำศูนย์เรียนรู้อย่างมืออาชีพ

SPRC จัดโครงการศึกษาดูงานพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชน ด้านการทำแปลงเกษตรและการทำศูนย์เรียนรู้อย่างมืออาชีพ

23 เมษายน 2567: บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC จัดโครงการ “ศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชน ด้านการทำแปลงเกษตรและการทำศูนย์เรียนรู้อย่างมืออาชีพ” ณ อรุณฟาร์มวิลเลจ จังหวัดชลบุรี

โครงการนี้มุ่งมั่นส่งเสริมความรู้และเตรียมความพร้อมให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นเกี่ยวกับการเกษตรยุคใหม่ การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ที่ยั่งยืน และการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำผ่านเทคนิคการทำผักยกแคร่

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยฐานบรรยายความรู้หลากหลายหัวข้อ อาทิ เทคโนโลยีการเกษตร การเพาะเชื้อไตรโคเดอร์ม่า และลงพื้นที่จริงเพื่อศึกษาการทำผักยกแคร่

คุณพรทิพย์ วีระพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กิจกรรมเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมและโครงการพิเศษ SPRC กล่าวในพิธีเปิดว่า “SPRC มุ่งมั่นส่งเสริมความยั่งยืนของชุมชนรอบโรงงานผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ หวังให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี พัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความมุ่งมั่นของ SPRC ที่ต้องการสนับสนุนให้ชุมชนมีองค์ความรู้ นำไปต่อยอดพัฒนาศักยภาพด้านการเกษตร ก่อตั้งศูนย์เรียนรู้ และแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำ นำไปสู่ความมั่นคงทางอาหารและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

โครงการนี้ได้รับการตอบรับจากชุมชนเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานหนองหวายโสม, วิสาหกิจชุมชนพัฒนาอาชีพการเกษตร ชุมชนวัดมาบตาพุด, วิสาหกิจชุมชนพัฒนาอาชีพเสริม ชุมชนวัดมาบตาพุด, วิสาหกิจชุมชนวัดชากลูกหญ้า, ชุมชนบ้านล่าง, และชุมชนห้วยโป่งใน 1

SPRC มุ่งมั่นที่จะสานต่อโครงการดีๆ เช่นนี้ต่อไป เพื่อร่วมพัฒนาชุมชนรอบโรงงานให้มีความเจริญก้าวหน้าและยั่งยืน

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว THE LIGHTERTHAILAND ได้ที่นี่ https://web.facebook.com/LighterThailand/

SPRC จัดกิจกรรมแอโรบิกสัญจร ปี 9 “เต้นท้าโรค โยกไปกับชุมชน”

SPRC จัดกิจกรรมแอโรบิกสัญจร ปี 9 “เต้นท้าโรค โยกไปกับชุมชน”

วันที่ 9 เมษายน 2567 บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง และเทศบาลเมืองมาบตาพุด จัดกิจกรรมแอโรบิกสัญจรเขตอำเภอเมืองระยอง “เต้นท้าโรค โยกไปกับชุมชน ปีที่ 9” ณ อาคารอเนกประสงค์ชุมชน หน้าวัดมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยได้รับเกียรติจาก นายกิตติ เกียรติมนตรี รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เป็นประธานในการเปิดงาน

กิจกรรมดังกล่าวนี้ ได้รับความสนใจจากพี่น้องทั้ง 15 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมกว่า 400 คน ซึ่งนอกจากความสนุกสนานและความสัมพันธ์ที่ดีของผู้คนภายในงานแล้ว SPRC ยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมการออกกำลังกายให้แก่คนในชุมชน ซึ่งอยู่ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดระยอง พร้อมกันกับการมุ่งพัฒนาแกนนำการออกกำลังกายให้มีความรู้ความสามารถที่ถูกต้องและเหมาะสม

 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดจำหน่ายสินค้าชุมชนเพื่อให้ผู้มาร่วมงานได้อุดหนุน พร้อมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้พี่น้องในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

#SPRC

SPRC ชวนพี่น้องในชุมชนร่วมจัดตลาดนัดชุมชนครั้งที่ 3 สร้างรายได้กว่า 70,000 บาท

SPRC ชวนพี่น้องในชุมชนร่วมจัดตลาดนัดชุมชนครั้งที่ 3 สร้างรายได้กว่า 70,000 บาท

วันที่ 10 เมษายน 2567 บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม “SPRC ตลาดนัดชุมชน” ครั้งที่ 3 ณ โรงอาหาร ภายในบริษัท SPRC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในจังหวัดระยอง เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าของชุมชน พร้อมกับประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ภายในงานมีร้านค้าของชุมชนและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วม 15 ร้านค้า จัดจำหน่ายสินค้าหลากหลาย อาทิ สินค้าการเกษตร เครื่องนุ่งหุ่ม และอาหารจากฝีมือของคนในชุมชนเอง โดยกิจกรรมในครั้งนี้สร้างรายได้มากกว่า 70,000 บาท และ SPRC ได้จัดกิจกรรมนี้ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งสามารถสร้างรายได้โดยรวมแล้วกว่า 168,000 บาท

SPRC มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้แก่พี่น้องในชุมชนและร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดระยอง อีกทั้งเรายังคงมุ่งที่จะจัดตลาดนัดชุมชนเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี

 

#SPRC

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงานเก็บการสารเคมีอุตสาหกรรมวินโพรเสส

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงานเก็บการสารเคมีอุตสาหกรรมวินโพรเสส สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมสถานการณ์ไฟที่ปะทุ และจัดทำแผนการเยียวยา ปชช. ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้ตำหนิอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ชี้ ปชช. เดือดร้อน แต่กลับลงพื้นที่ช้าทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปติดตามสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม วินโพรเสส ม.4 บ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยมีนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ สรุปภาพรวมสถานการณ์ให้รับทราบ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงพี่น้อง ปชช. ที่อยู่ใกล้โรงงาน และอาศัยอยู่พื้นที่อันตรายตรงนี้ จึงได้สั่งการ โดยขอให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้ดูแลควบคุมเหตุไฟปะทุ และเพลิงไหม้จนเข้าสู่สภาวะปกติ และจัดทำแผนเยียวยา ปชช. ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ขอให้ประชาสัมพันธ์ให้ ปชช. ที่ได้รับผลกระทบไปลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านค่าย ศูนย์ดำรงธรรม ต.หนองบัว และ ต.บางบุตร เพื่อเป็นข้อมูลเยียวยาฟื้นฟู ตามพระราชบัญญัติ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศตามชุมชน และรายงานผลให้ทราบ เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพ ปชช. เร่งจัดการกากอันตรายไปกำจัดให้ถูกต้อง และให้เตรียมความพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาในช่วงฤดูฝนที่อาจจะมีวัตถุอันตรายรั่วไปนอกพื้นที่ให้กรมโรงงานกำหนดมาตรการที่ชัดเจน รวมทั้งให้กรมโรงงานฯ และอุตสาหกรรมจังหวัด บูรณาการตรวจสอบโรงงานประเภทนี้ทั่วประเทศ และจัดทำแนวทาง และมาตรการไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก ขอให้กรมการปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินสอบสวนหาผู้กระทำผิด ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้ตำหนินายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ลงพื้นที่เกิดเหตุช้า ซึ่งนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ถูกต้องที่ลงพื้นที่ช้า ซึ่ง ปชช.เดือดร้อน จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้รับหนังสือร้องเรียนจากเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และ ปชช.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ก่อนจะขึ้นรถตู้ออกจากโรงงาน โดยมี ปชช. กลุ่มหนึ่งรออยู่ทางออกโรงงาน โดยถือป้ายประท้วงโรงงาน ขอให้นายกรัฐมนตรีจัดการนำสารเคมีออกไปโดยเร็ว แต่รถของนายกรัฐมนตรี ไม่จอดลงมาดูแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ปฏิบัติงานรอรับนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจนเป็นลม เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำส่ง รพ.บ้านค่าย เพื่อปฐมพยาบาล.

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าว THE LIGHTERTHAILAND ได้ที่นี่ https://web.facebook.com/LighterThailand/

เงื่อนไขแจกเงินให้ครอบครัวที่ดูแลผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน เริ่มเดือน พ.ค. 2567

เงื่อนไข แจกเงิน 3,000 บาท

การขอคุ้มครองดูแลผู้สูงอายุให้ขอได้เพียงคราวละ 1 คน หากจะรับมากกว่านั้น ให้ระบุเหตุผล และความจ้าเป็นที่จะต้องรับผู้สูงอายุไว้คุ้มครองดูแลมากกว่า 1 คน

คุณสมบัติการขออุปถัมภ์ผู้สูงอายุ ได้ 3000 บาทต่อเดือน

  • สัญชาติไทย
  • มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีซึ่งมีความพร้อมและศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุ อาจได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการเป็นรายๆ ไป
  • มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับผู้สูงอายุ
  • ได้รับความยินยอมจากสมาชิกทุกคนในครอบครัวว่ามีความพร้อมในการคุ้มครองผู้สูงอายุ
  • ไม่เป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

ยื่นขอเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ได้ที่

  • ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด
  • ในจังหวัดอื่น ให้ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุที่อยู่ในจังหวัดนั้น

เอกสารหลักฐาน

  • ทะเบียนบ้าน
  • บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวประเภทหนึ่งประเภทใดที่มีเลขประจำตัวประชาชน
  • รูปถ่ายหน้าตรง ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 1 รูป

ซึ่งหลังจากนั้นจะมีนักสังคมสงเคราะห์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายไปเยี่ยมบ้านของผู้ยื่นคำขอ และผู้สูงอายุเพื่อสอบข้อเท็จจริงให้ได้ข้อมูลประวัติบุคคล ครอบครัว บุคคลที่เกี่ยวข้อง สภาพความเป็นอยู่ และความเหมาะสม เพื่อตวรจสอบข้อเท็จจริงนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาคุณสมบัติต่อไป

จำนวนเงินที่จะได้รับ

จะได้รับครอบครัวละ 2,000 บาท ต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและเหมาะสม อาจพิจารณาให้เงินช่วยเหลือได้ไม่เกินครอบครัวละ 3,000 บาทต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน

ทั้งนี้ โครงการครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ จะเริ่มในเดือน พ.ค. 2567 โดยปีแรกตั้งงบประมาณรองรับ 1,100 ราย

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง ออกเยี่ยมจุดตรวจ

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง ออกเยี่ยมจุดตรวจและติดตามการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 จังหวัดระยอง


วันที่ 11 เมษายน 2567 กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดย นายสิทธิพร กาสรสุวรรณ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งพนักงานคุมประพฤติชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง และนางสาวอรศิริ ลีลาพิทักษ์ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และอำนวยการ ออกเยี่ยมจุดตรวจและติดตามการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

พร้อมทั้งตรวจติดตามผลการดำเนินงานของจุดตรวจ รับทราบปัญหาการปฏิบัติงานตลอดจนการให้คำปรึกษาและแนะนำการปฏิบัติงาน แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 5 จุดตรวจ ได้แก่ 1.จุดตรวจหลักบริเวณสี่แยกพัฒนา หมู่ที่ ๒ ตำบลห้วยทับมอญ/องค์การบริหารส่วนตำบลเขาชะเมา2.จุดตรวจหลักบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรน้ำเป็น หมู่ที่ ๑ ตำบลน้ำเป็น/องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำเป็น3.จุดตรวจรองบริเวณสามแยกมะเดื่อ หมู่ที่ ๒ ตำบลเขาน้อย/องค์การบริหารส่วนตำบลเขาน้อย4.จุดตรวจรองบริเวณสี่แยกเขาช่องลม หมู่ที่ ๔ ตำบลชำฆ้อ/เทศบาลตำบลชำฆ้อ 5.ด่านชุมชนบริเวณหน้าเทศบาล ตำบลชำฆ้อ หมู่ที่ ๒/เทศบาลตำบลชำฆ้อ ทั้งนี้การปฏิบัติงานทุกจุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน เครื่องมือ และอุปกรณ์ ต่างๆ มีความพร้อมในการใช้งาน

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง เข้าร่วมเปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดระยอง พ.ศ.2567

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง เข้าร่วมเปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดระยอง พ.ศ.2567

วันที่ 10 เมษายน 2567 กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยนายสิทธิพร กาสรสุวรรณ พนักงานคุมประพฤติ ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งพนักงานคุมประพฤติชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดระยอง นางนภารัตน์ ตันยะบุตร พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มคุมประพฤติพื้นที่ 1 และนางสาวอรศิริ ลีลาพิทักษ์ พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และอำนวยการพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/ทางน้ำ การบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดะยอง พ.ศ.2567,กิจกรรมรณรงค์”วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน”จังหวัดระยอง พ.ศ.2567 และกิจกรรมรณรงค์สร้างจิตสำนักและการสร้างเครือข่ายเกี่ยวกับการใช้ทางม้าลาย

ภายใต้หัวข้อ ”ยานพาหนะทุกคันหยุดตรงทางม้าลาย คนเดินเท้าใช้ทางม้าลายและทางข้ามทุกครั้ง” “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ประจำปีงบประมาณพ.ศ.2567 โดยมี นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิด ณ ศูนย์จำหน่ายวัสดุต่อเติมบ้าน โฮมโปร สาขาระยอง (ถนนสุขุมวิท) อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง

จิรัฏฐ์นนท์  ฐิตะสิริ/รายงาน